พามาชมโครงใหม่ เป็นโครงการบ้านพักอาศัย 2 ชั้นจากทาง ap โครงการ PALAZZO โดยที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมดำเนินงานก่อสร้างครับ ตัวโครงการรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ มีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้องนอน และพื้นที่ common area ของบ้านก็มีอย่างครบครัน สำหรับตัว concept หลักที่ใช้ในงานตกแต่งคือเน้นความสวยงามหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของเจ้าของบ้าน โดยทุกขั้นตอนของงานออกแบบ เรามีการ ลง detail แต่ในละส่วนอย่างตั้งใจ เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดครับ 1st floor | common area เริ่มต้นที่โถงทางเข้าหลักของบ้าน เรามีการเปลี่ยนพื้นใหม่โดยใช้ลายหิน onyx ขนาดใหญ่เข้ามาใช้ในงานตกแต่งเผื่อให้ได้ความหรูหรา ที่เป็นลักษณะเฉพาะ ของบ้าน ผนังตกแต่งแต่งด้านขวา ขนาดใหญ่ใช้ pattern หินอ่อนที่สวยงามผสมผสานกับ detail และ design ที่ modern ได้อย่างลงตัว ตัวงานออกแบบเราตั้งใจให้มี detail ที่เชื่อมต่อ ในทุกๆด้านของห้อง มีการใช้ stainless สีทองเข้ามาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไปเพื่อให้งานได้ส่วนผสมของ ความ modern และ luxury ที่ดูแล้วไม่รู้สึกเกร็งจากความสะท้อนมากจนเกินพอดี ห้องทางด้านซ้ายมือเรากันพื้นที่ขึ้นมา โดยทำเป็นประตู aluminium สีทองที่มีการออกแบบใหม่เฉพาะของบ้านอีกเช่นกัน สำหรับห้องนี้นั้นตั้งใจออกแบบให้เป็นห้อง library room ใช้เป็นห้องทำงานรวมของคนในบ้านได้ เป็นห้องรับแขกที่เป็นทางการได้ งานออกแบบตั้งใจให้มีความโปร่งสบายจากช่องแสงเดิมของบ้าน ตัวผนังตกแต่งสีขาวผิวด้าน เดินคิ้ว สีเหลี่ยมเข้ามุม 45องศา ให้ detail แบบ neo classic ที่มีความทันสมัยมากขึ้นไม่ได้เป็นบัวใหญ่ซับซ้อน เหมือน classic ยุคก่อน ตัวฝ้าเพดานใช้ไม้ข้ามาช่วยให้พื้นที่ดูมีความรู้สุกที่ concentration มากขึ้น แต่ก็มีการตกแต่งด้วย prop ที่ดู relax อย่างหมอน ,ต้นไม้ ,floor lamp หรือแม้แต่มุม ของโต๊ะประชุมที่มีขอบโค้ง เป็นต้น เมื่อออกมาจากห้อง กลับเข้ามาที่โถงทางเข้า แล้วเดินตรงเข้ามาก็จะเข้าสู่พื้นที่ ที่เป็นพื้นที่พักผ่อนของคนในบ้านครับ เนื่องด้วยตัว space ที่ทางโครงการจัดไว้นั้น เป็นแบบ open plan ซึ่งก็ดีมากๆ ทำให้พื้นที่ส่วนกลางจะดูโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับตรงส่วนนี้นั้น เราเน้นงานออกแบบที่ดู modern เป็นหลัก ไม่ได้เน้น ให้รู้สึกแน่น หรือจริงๆจังมากจนเกินไป ตัวตู้ tv เน้นงานออกที่ดูทันสมัยใช้ stainless สีทองเป็นซุ้มสำหรับทำเป็นชั้นวางของซ่อนไฟ ตรงกลางที่ติดตั้ง tv ใช้เป็นหินอ่อนสีขาว เน้น patten ที่ไม่ได้ดูโดดเด่นมากนัก มองแล้วสบายตา ด้านล่างก็ตกแต่งเป็นหินอ่อนสีดำ เชื่อมงาน design ยาวต่อเนื่องและใช้เป็น top ด้วยเช่นกัน ถัดมาด้านหลังลงเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารทรงกลม ขนดใหญ่ได้ถึง 8 ที่นั่ง ข้อดีของโต๊ะทรงกลมนั้น เวลาทานอาหารจะไม่ไกลกันมากเกินไป ทำให้การรับประทานอาหารดูไกล้ชิดกันมากขึ้น และที่สำคัญไม่กินพื้นที่ ในการใช้งานอีกด้วยครับ ต่อมาในส่วนครัวนั้น เราออกแบบให้มี island ขนาดยาว ที่รองรับที่นั่งได้ 5-6 ที่นั่งแบบสบายๆเลยครับ ตัวการใช้งานให้ระดับความสูงเดียวกัน กับ pantry ซึ่งจะทำให้ สามารถใช้งานเป็น function เตรียมอาหารได้อย่างต่อเนื่อง และไม่สูงตนบดบังมุมมองที่ดูโปร่งสบายตา ของห้อง ตะสังเกตุได้ว่าตรง pantry นั้นเราเว้าช่องไว้ เนื่องจาก เป็นหน้าต่างเดิมของโครงการ แต่เราก็ยังแทรกงานออกแบบทำเป็นชั้นวางแก้ว เข้าไปให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ และยังสามารถให้แสงผ่านเข้ามาได้อีกด้วยครับ 2nd floor | master bedroom ชั้น 2 นั้น เราขอตัดเข้ามาที่ห้อง master bedroom ที่เป็นหัวใจหลักของบ้านให้ชมกันก่อนเลยครับ สำหรับห้อง master bedroom นั้นเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่มาก เราจึงกั้นห้องใหม่ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยแบ่ง function ที่เพิ่มเข้ามาคือ ห้องทำงานส่วนตัวเข้าไปด้วยครับ เริ่มต้นที่โถงทางเข้าเล็กๆของห้อง ด้านซ้ายเราตกแต่งให้เป็นผนังตกแต่งเล็กๆ ที่เป็นจุด welcome ของห้องโดยใช้งานตัดกระจกที่แทรก detail pattern ที่เป็นเอกลักษณ์เข้าไปเล็กน้อย และยังสามารถวางโต๊ะ console โปร่งๆได้อีกด้วย เมื่อมองตรงเข้าไปจะเห็นเป็นซุ้มทางเข้าไปสู่พื้นที่พักผ่อน แต่ก่อนจะเข้าไปนั้น จะสังเกตเห็นผนังประตูกระจกใสด้านขวา ก็คือห้องทำงานส่วนตัวที่เรากั้นใหม่เข้าไปนั่นเองครับ ตัวพื้นที่นั้นจะเห็นได้ว่าเรากินเข้าไปในส่วนนอน เล็กน้อย งานออกแบบของห้องนั้น เราตั้งใจให้เป็นกระจกใส เพื่อความโปร่งไม่ให้รู้สึกอึดอัด ในการใข้งาน มีการใช้กระจกที่มีความโค้ง ในช่วงมุม นอกจากลดความอันตรายลงแล้ว ยังสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก สำหรับโครงการนี้ครับ สำหรับงาน built in นั้นเน้น ตามการใช้งาน tone ของห้องเราใช้เป็นสีแดง rosso jaipur ของ brand finix ที่ให้เอกลักษณ์ตั้งแต่สี จนถึงสัมผัสที่พิเศษมากๆได้ใครเคยได้สัมผัส จะตัดใจไม่ได้เลยครับ กลับมาที่ตัวงานออกแบบ ในส่วนของ ผนังแขวน tv นั้นเรา link ผนังนี้ให้ใช้ได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งจากฝั่งห้องทำงาน และห้องนอน ตัว tv ใช้เป็นแบบแขวน ด้านล่างทำเป็นตู้ลอยเล็กๆสำหรับเก็บของ ได้เล็กน้อย ไม่ให้ดูแน่นจนเกินไป สำหรับการจัดวางโต๊ะทำงานเน้นเป็นแบบ centerpiece ให้ตัวโต๊ะอยู่กลางห้อง งานออกแบบตู้เก็บของด้านหลังนั้นใช้เป็นผนังตกแต่งหินอ่อนเป็น feature หลักและด้านซ้ายขวาทำเป็นตู้โชว์ ให้มีการใช้งานทั้งแบบเปิด และปิดซึ่งเก็บของได้แบบทั้งส่วนโชว์และของที่ไม่ได้ต้องการโชว์ได้อย่างกลมกลืน หากลองสังเกตได้จะเห็นว่า ด้านขวามือของห้องนั้น จะมีเป็นมุมที่นั่งเล็กๆ ตรงจุดนี้นั้นคือที่มุม bay window ของห้องที่เราออกแบบให้มีประตูกั้นเปิดปิดการใช้งาน ที่สามารถ control ได้ทั้ง เสียงและ air ได้อย่างลงตัว ต่อไปนั้นสำหรับส่วนนอน เราเน้นงานออกแบบที่ดู modern เป็นหลักโดยที่หัวนอนจะมีหน้าต่างเดิมของโครงการอยู่ทั้งซ้ายและขวาเราจึงออกแบบให้เป็นบานเลื่อนสามารถ เปิดปิดได้เวลาที่ ไม่ต้องการให้มีแสงเข้ามาก็สามารถปิดได้ 100% เลย โต๊ะข้างเตียงนั้นก็มีการออกแบบให้มี design ที่เชื่อมต่อกันไปจนถึงที่นั่ง bay window และทำเป็นลิ้นชักเก็บของได้อีกด้วยครับ ในส่วนปลายเตียงก็เป็นจุดที่ใช้เป็นผนังตกแต่งแบบเดียวกันกับห้องทำงานแต่ห้องนี้นั้นจะปรับเป็น tone สีขาวแทนครับ ไปดูที่ห้องแต่งตัวกันต่อครับ สำหรับห้องนี้เรากั้นพื้นที่ขึ้นมาใหม่ มีการออกแบบประตูทางเข้าใหม่เฉพาะโครงการนี้อีกเช่นเคยครับ เมื่อเปิดเข้าไปจะเป็นห้อง walk in closet ขนาดใหญ่ สามารถลง dressing island ไว้กลางห้องได้เลยครับ สำหรับตัว dressing islandนั้น เราตั้งใจออกแบบให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะโครการนี้เลยครับ โดยรวม function แต่งตัว กับเก้บของเข้าไปในตัวเดียวกัน มีการใช้ผนังกั้นเป็นลายหินอ่อนที่สวยงาม สำหรับตัว display เราก็มีการออกแบบเป็นทรงกลม ซ่อนไฟให้ความรู้สึกที่พิเศษมากๆครับ ตัวงานออกแบบตู้เสื้อผ้านั้นก็มีการออกแบบให้มีทั้งส่วนเสื้อผ้าที่ใช้บ่อยเป็นบานโปร่ง และเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้บ่อยก็สามารถเก็บในส่วนบานทึบได้เช่นกัน นอกจากนี้นั้นยังมีตู้โชว์ของที่สามารถ เก็บของใช้ acessories ต่างๆได้ ทั้งนาฬิกา ,น้ำหอม ,กระเป๋า เป็นต้น สำหรับ design ของห้องนี้นั้นจะมีความเป็น sweety gentleman ให้ความรู้สึกถึงงาน design ที่เนียบแต่ซ่อน detail ที่ดู soft ไม่ขรึม ตรึงมากจนเกินไปได้อย่างลงตัวครับ 2nd floor | common area สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของชั้น 2เมื่อเดินขึ้นมาจะเป็นโถงทางเดิน corridor เราตกแต่งให้เรียบง่ายที่สุด เดินผ่านโถงที่เชื่อมกับ foyer ชั้น1 ก็จะเห็นประตูกระจก และผนังกระจกโค้ง เพื่อเข้ามาสู่ห้องที่เรากั้นเป็นห้อง family room ห้องนี้เน้น function ที่ค่อนข้าง multi มีทั้งที่นั่งแบบ stool bar ยกสูง มีมุมลง sofa ขนาด 3ทีนั่งสำหรับดู tv ที่ต้องแต่งด้วยผนังหินอ่อน และด้านข้างทำเป็นบานเลื่่อนสำหรับเปิดปิดช่องแสง จากหน้างต่างเดิมของบ้านได้อย่างกลมกลืน มีมุมเล็กๆทำเป็น pantry มีตู้เย็นรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน งานออกแบบ เน้นความสบายๆขึ้น แต่ก็ยังมีความ หรูหราและผสมผสานความเป็น neo classic มาตั้งแต่ชั้น 1 ต่อเนื่องกันมาที่ชั้น 2 เช่นกันครับ นอกจากนั้นห้องนี้ยังมีระเบียงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกัน จากภายในห้องอีกด้วย ซึ่งเรากั้นเป็นห้อง fitness ได้ขนาดกำลังพอเหมาะ ห้องนี้เน้นการใช้งานเป็นหลัก โดยเก็บส่วนที่เป็นอาคารเดิมไว้ แทบทั้งหมดเลยครับ แม่แต่ขอบบัวตกแต่งอาคารก็เก็บไว้่ และเสริมเป็นเบาะที่นั่ง หรือวางของได้เพิ่มเติม อีกส่วนหนึ่งคือห้องที่อยู่ทางด้านขวามือหัลงจากขึ้นบันไดมา เราออกแบบให้เป็นห้องพระ ที่หันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน สำหรับห้องนี้นั้นขนาดอาจะจะไม่ได้มากนักแต่สามารถวาง function การใช้งานได้ค่อนข้างลงตัว เมื่อเดินเข้ามา หน้าห้องเราออกแบบเป็นซุ้มบางๆเป็นของ stainless สีทอง มีตู้โชว์ของและเก็บของที่ด้านล่างได้ จะเห็นว่ามีช่องทางเดินแบ่งเป็นซ้ายขวา ด้านหลังนั้นคือ ห้องพระนั้นเอง เราต้องการให้ตำแหน่งการวางพระอยู่ตรงกลางห้องเป็นหลัก ทำให้เกิดเป็นช่องทางเดินได้ซ้ายขวา เมื่อเข้ามาในห้องก็ค่อนข้างเรียบง่ายมากๆ งานตกแต่งเน้นที่พระประธาน ด้านล่างทำเป็นตู้ลิ้นชักเล็กๆ เก็บของได้เพิ่มเติม ด้านหลังพระประธานตกแต่งด้วยผนังหินอ่อนเซาะร่องเว้า และซ่อนไฟรอบ ให้ความสงบ และเรียบง่าย bedroom 2,3,4,5 สำหรับงานออกแบบห้องนอนที่เหลือน้น ค่อนข้างมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปแต่ละคน เริ่มด้วยห้องนอนที่ชั้น 1 ห้องนี้เป็นห้องนอนของคุณพ่อ งานออกแบบเน้นความเป็น modern classic ผสมผสานกัน เนื่องจากหัวเตียงมีหน้าต่างซ้ายขวา เราจึงออกแบบเป็นบานเลื่อนเพื่อให้สามารถปิดแสงได้สนิท 100% ด้านข้างออกแบบให้เป็นตู้เก็บของได้อเนกประสงค์ มีทั้งส่วนโชว์ และส่วนเก็บของทั่วไป ในส่วนปลายเตียงนั้น เราก็ออกแบบให้เป็นโต๊ะทำงาน ที่เชื่อมไปกับตู้เสื้อผ้า ได้อย่างลงตัว ขึ้นมาที่ชั้น 2 ห้องแรกนั้นจะเป็นห้องนอนของลูกสาว ห้องนี้จะมีความ cozy เข้ามามากที่สุดในบรรดาห้องนอนทั้งหมด มีพื้นที่เก็บของโชว์ได้อย่างเต็มที่ โดยเรามีการจัดวางแบ่งสัดส่วน ให้ไม่รู้สึก รกจนเกินไป สำหรับหน้าต่างก็มีการปรับให้มีที่นั่ง bay window เป็นมุมพักผ่อนสบายๆอีกมุมของห้อง นอกจากนี้แล้ว ยังมีมุมทำงานส่วนที่ ที่ใช้เป็นโต๊ะรูปตัว L ยาวต่อเนื้่องเรียกว่าได้พื้นที่ทำงาน ที่ค่อนข้างเต็มที่เลย และด้านหลังยังทำเป็นตู้เก็บของได้ นอกจากนี้ยังมีมุมตู้เสื้อผ้ายาวต่อเนื่อง ที่เน้นงานออกแบบด้วย tone สบายๆอีกเช่นกันครับ ห้องนอนที่ 3 คือห้องนอนลูกชาย ห้องนี้ function จะค่อนข้างไกล้เคียงกับลูกสาวเลย มีปรับเล็กน้อยเพื่อให้ได้การใช้งานที่ลงตัวกับพื้นที่มากขึ้น และงานออกแบบนั้นจะเน้น ไม้สีที่เข้มเป็นสี dark walnut เข้ามาตัดให้ห้องดูเข้มขึ้น แต่ภาพรวมก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่มืดมากจนเกินไปมีมุมทำงานที่เป็นโต๊ะทรง L เช่นกัน และมีมุมที่นั่งริมหน้าต่างพร้อมตู้เก็บของทั้งซ้ายและขวาอีกด้วย สำหรับห้องนอนสุดท้ายนั้นคือห้องนอนของคุณแม่ ห้องนี้เนื่องจากโจทย์คือต้องการตู้เสื้อผ้าที่ค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ ทำให้พื้นที่โดยรอบของห้องเราจึงให้เป็นตู้เสื้อผ้าหมดเลย ไม่มีพื้นที่สำหรับ โต๊ะแต่งตัว เราจึงกั้นผนังห้องขึ้นมาใหม่ สำหรับเป็นมุมแต่งตัวได้อย่างลงตัว ถึงแม้พื้นที่ไม่มากนักแต่ก็เพียงพอ และได้การใช้งานที่เหมาะสมครับครัน งานออกแบบของห้องนี้นั้นจะเน้นให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิง ที่เนี๊ยบเป็นพิเศษ ใช้เป็นโทนสีขาวครีม ตัดด้วย stianless สีทองอย่างลงตัว สำหรับหัวเตียงใช้เป็นไม้กลึงลายหินอ่อน และ design ต่อเนื่องมาจนถึงตู้ด้านข้าง ที่เราให้เป็นบานทึบ เพราะใช้เป็นตู้เสื้อผ้าเสริมอีกตู้หนึ่ง เนื่องจากตู้นี้ต้องมาอยู่ข้างเตียงเลยอาจะดูแปลกไปบ้างแต่เราได้มีการออกแบบที่ link design กันมา ตั้งแต่หัวเตียง ทำให้ความรู้สึกที่กลมกลืน และลงตัว นอกจากนี้แล้ว ห้องนี้ก็ยังได้มุมทำงานได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่างานออกแบบห้องนอนทุกห้องนั้น จะมีความครบครันของ function ที่เป็น ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน